สวัสดีครับ เพื่อนๆ หลังจากยึกยักอยู่พักใหญ่ ด้วยสาเหตุความบังเอิญที่ว่า มีงานมากอยู่แล้ว ประเทศไทยดันมาเจอกับมหาอุทกภัย 2554 ส่งท้ายปีอีก จึงต้องถอดหมวกเกือบทุกใบออก เพื่อบริหารจัดการฐานข้อมูลผู้ประสบภัย ข้อมูลอาสา และผู้บริจาค ผ่านระบบการจัดการของ thaiflood.com กับน้องๆ คนพิการทั้ง 8 คน ที่ทำงานที่บ้านทั้งหมดทั่วประเทศ ตบท้ายด้วยการโทรสอบถามตามวัดทั่วประเทศ และการลงข้อมูลว่าวัดไหนจัดงาน "สวดมนต์ข้ามปี" เพื่อความสะดวกของปะชาชนทั่วไป ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 (ทั้งงานอาสา และงานสวดมนต์ข้ามปี) พอจบงานก็ถึงเวลาต้องเร่งเคลียร์บทความต่างๆ ของทั้ง 10 กว่าบล็อก ซึ่งก็รวมบล็อกสำคัญนี้ด้วยครับ
เมื่อวันที่ 30 ธค. 2554 ก่อนที่จะไปนัดสำคัญคุยเรื่องอนาคตของการทำเว็บไซต์นามบัตรกับหุ้นส่วนที่สาทร ช่วงเช้าหลังไปร้านตัดแว่นตา เจ้าประจำแล้ว ก็รีบไปที่ธนาคารกสิกรไทย สาขานวมินทร์ซิตี้ อเวนิว เลยครับ เพื่อไปทำบัตรเดบิต "K-Max" ที่ไม่มีข้อห้ามว่าคนพิการทำไม่ได้ ตามที่ผมเคยเขียนบทความไว้บ้างแล้วนะครับ และที่ผมต้องไปถึงถนนเกษตร-นวมินทร์ นั้นก็เพราะมีความรู้สึกผูกพันกับสาขานี้เป็นพิเศษ และผู้จัดการที่สาขานี้ก็คุยง่าย เข้าใจผม ที่เป็นคนพิการ และอยากมีความมั่นคงของชีวิตด้วยการมีประกันชีวิต ถึงจะแค่เพียงคุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุก็ยังดีครับ
เท่ากับว่าตอนนี้ ถ้าผมต้องประสบอุบัติเหตุ จนเสียชีวิต ผมจะได้รับเงินชดเชยต่ำสุด 6 แสนบาท และสูงสุด 1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการด้านการคงค้างเงินในบัญชี ครับ ในเบื้องต้นผมพอใจมากแล้วครับ กับการที่พยายามผลักดันให้วงการประกัน รับประกันุบัติให้กับคนพิการ สิ่งที่ต้องต่อสู้ต่อไป คือ การรับประกันชีวิตให้กับคนพิการ ซึ่งผมก็กำลังเตรียมงานหลายส่วนในระยะยาวอยู่ครับ หากเป็นอะไรไปก่อน ก็จะมีคนมารับช่วงสานงานตรงนี้ต่อไปอย่างแน่นอนครับ
ตัวอย่างบัตรเก่า และที่ทำใหม่ที่มีสัญลักษณ์ K-Max นะครับ จึงนำภาพมาฝากครับ คำแนะนำสำหรับบุคคลทั่วไป หากท่านคิดว่าชีวิตของท่านมีค่า กับคนที่รัก และไม่อยากให้คนที่รักต้องลำบากก็ควรทำประกันชีวิตนะครับ ถ้ามีเงินไม่เพียงพอก็ทำประกันอุบัติเหตุ PA หรือทำกับธนาคาร ซึ่งปัจจุบันนี้มีแทบทุกธนาคาร ครับ ถ้าคุ้มครอง 1 ล้านบาท น่าจะประมาณพันกว่าบาทเท่านั้นเอง สำหรับทุกท่านนั้นทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องยุ่งยากแบบผม ดังนั้น เพื่อนๆ ควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้มากนะครับ เพราะเป็นรายจ่ายที่เล็กน้อยมาก หากเทียบกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นครับ มูลค่านั้นน้อยกว่าการทำประกันภัยรถยนต์ หรือการไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุด หรืออาจจะน้อยกว่าอาหารหรูๆ สักมื้อ เสียด้วยซ้ำครับ
ผมก็หวังว่า บทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเตือน ให้เพื่อนๆ ได้ตระหนัก ในการเตรียมพร้อมของตัวเอง เพื่อคนที่เรารัก ที่อยู่รอบๆ ตัวเรานะครับ ลองนั่งนิ่งๆ หยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่าง หลับตา แล้วระลึกถึง "ความตาย" ที่ไม่รู้ว่าจะมาเยือนเราเมื่อไหร่ อะไรบ้างที่เรายังไม่ได้ทำ อะไรบ้างที่เรายังไม่ได้เตรียมการไว้สำหรับคนที่เรารัก เมื่อเพื่อนๆ เปิดตาขึ้นมาแล้ว ก็รีบทำในสิ่งที่คิด ที่อยากทำ ที่เป็นสิ่งดีๆ อ่านบทความนี้จบแล้ว สามารถเริ่มได้ทันทีเลยนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น